วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Digital Door Lock ดีกว่ากลอนประตูธรรมดาอย่างไร?

กลอนประตูแบบดิจิตอล


ปัจจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทและกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ในการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก แม้กระทั้งเรื่องของกลอนประตู Digital Door Lock หรือกลอนประตูอัตโนมัติก็เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วยในเรื่องความสะดวกสบายในการไม่ต้องพกกุญแจ อีกทั้งยังได้รับความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกด้วย



แล้ว Digital Door Lock มีประโยชน์อย่างไร?


Digital Door Lock เป็นนวัตกรรมระบบล็อกประตูที่ทันสมัยที่เพิ่มความสะดวกสบายไม่ต้องใช้กุญแจ หมดปัญหาลืมล็อกบ้าน กุญแจหายหรือพกกุญแจหลายดอก เพราะ Digital Door Lock มีระบบล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อมีการปิดประตู และใช้เพียงรหัส บัตร หรือ โทรศัพท์มือถือ ในการปลดล็อคประตู ทำให้ไม่จำเป็นต้องพกพากุญแจหลาย ๆ ดอกไปไหนมาไหนด้วย Digital Door Lock ยังช่วยแก้ปัญหาการลืมกุญแจ หรือ กุญแจหายอีกด้วย ไม่ต้องนั่งรอคนในครอบครัวที่มีกุญแจมาเปิดให้ หรือต้องตามช่างกุญแจมาช่วยเปิดประตูให้อีก เพราะใช้เพียงรหัสก็สามารถปลดล็อคประตูได้


อาจจะมีคำถามว่า หากใช้รหัสจะโดนคนแอบดูรหัส หรือ ดูรอยลายนิ้วมือบนปุ่มที่กดรหัสจำรหัสไปใช้ไหม? Digital Door Lock ในแต่ละรุ่นจะมีฟังค์ชั่นการป้องกันการแกะรอยลายนิ้วมือแตกต่างกันออกไป เช่น รหัสหลอก หรือการสุ่มกดรหัสโดยมีรหัสจริงแทรกอยู่ในรหัสที่กดสุ่ม ผู้ไม่หวังดีก็จะไม่สามารถรู้รหัสของเราได้ แม้กระทั่งมายืนดูเรากดรหัสก็ตาม

ความสะดวกสบายยังมีมากกว่านั้นอีกหากเลือกใช้ตัว Digital Door Lock แบบที่สามารถใช้บัตรได้ ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับบัตรได้หลายหลายรูปแบบโดยไม่ต้องพกบัตรหลายใบ เช่นการใช้บัตรเดียวกับคอนโด หรือหมู่บ้านที่อาศัยอยู่  การใช้บัตรร่วมกับบัตร MRT/BTS หรือแม้กระทั่งการใช้ NFC Sticker ซึ่งสามารถนำไปติดกับสิ่งของหรือโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ประจำได้ ทำให้สามารถใช้สิ่งของชิ้นนั้น หรือโทรศัพท์มือถือในการปลดล็อคประตูได้อีกเช่นกัน




ในเรื่องขอความปลอดภัย Digital Door Lock มีระบบสัญญาณกันขโมยในตัว ซึ่งจะส่งเสียงร้องทันทีเมื่อมีผู้ไม่หวังดี ทำการสุ่มกดรหัส ทดลองบัตร การงัดแงะ ทุบหรือทำลายตัวล็อก  อีกทั้งระบบยังใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA 4 ก้อน จึงไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟใด ๆ ให้ยุ่งยาก แม้ไฟฟ้าจะดับก็ยังสามารถที่จะใช้งานได้ปรกติ 



ในกรณีแบตเตอรรี่ใกล้หมด ตัวล็อคจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อให้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันที หรือ หากเกิดกรณีแบตเตอรี่หมดตัวล็อคถูกออกแบบให้สามารถนำแบตเตอรี่ 9V (ก้อนสี่เหลี่ยม) ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อมาเสียบเพื่อทำการปลดล๊อคและทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายในใหม่ได้



ด้วยความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากขึ้น พร้อมทั้งความทันสมัย หรูหรา ติดตั้งเสริมได้ง่ายดาย จึงทำให้ Digital Door Lock ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วแบบนี้คุณคิดจะเปลี่ยนกลอนประตูธรรมดามาใช้เป็น Digital Door Lock หรือยัง....


ติดต่อฝ่ายขาย : คุณธัญพิชชา / คุณณัฐวัฒน์ / คุณกรรณิกา / คุณดุจดาว
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ระบบประหยัดพลังงานในห้องพัก

คือระบบควบคุมไฟฟ้าในห้องพักระบบนี้จะช่วยให้คุรประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟ ได้ถึง 35%

      ช่วยให้คุณประหยัด ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น  อาทิ กรณีที่ลูกค้าลืมปิดไฟ, แอร์ ทิ้งไว้ก่อนออกจากห้องพัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น จึงมีวิวัฒนาการของอุปกรณ์ที่จะช่วยประหยัดค่าไฟ้ให้กับเจ้าของสถานที่ ห้องพัก โรงแรม พร้อมกับการพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด และที่สำคัญ คือ การประหยัดสูงสุดด้วยระบบแยกการทำงานของ key card ลูกค้า และพนักงานทำความสะอาดอย่างสิ้นเชิง



ระบบการทำงานงานของ Energy Saving Switch


      เมื่อลูกค้าเสียบ  Key card ที่ตัว Key box (ฐานเสียบ) ระบบจะสั่งงานไปที่ชุดควบคุมระบบ (Relay control unit) ทันที เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าห้อง จากนั้นระบบไฟฟ้าที่กำหนดไว้จะทำงานทันที อาทิ ไฟแสงสว่าง,ทีวี, แอร์ ฯลฯ และเมื่อลูกค้าดึง Key card ออก ระบบ จะทำการหน่วงเวลาไว้ประมาณ 15-20 วินาที จากนั้นระบบจะทำการตัดกระแสไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ




KEY CARD CONTROL จะมีอุปกณ์ซึ่งประกอบด้วย อาทิ

Relay Control Unit (ชุดควบคุมระบบ)

- Relay 30 Amp. Contacts : สำหรับแอร์

- Relay 30 Amp.  Contacts : สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าเครื่องทำน้ำอุ่น

- Relay 30 Amp.  Contacts : สำหรับ PLUG (สำหรับ Bed Side)

- Relay 12 Amp. Contacts : สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าและไฟแสงสว่าง




Key box (ฐานเสียบ)

Function

1. ใช้กับไฟฟ้า 220 VAC 50 ไซเคิล/วินาที

2. ภายในกล่องการ์ด BOX HOLDER ให้ความปลอดภัยกับผู้ใช้งานด้วยวงจรไฟฟ้าแรงดันต่ำและควบคุมการเปิด/ปิดระบบไฟฟ้าห้องพักด้วยระบบ IR SERSON

3. ภายในกล่องการ์ด BOX HOLDER มีหลอดไฟ LED สีเขียวให้ความสว่างเมื่อไม่มีการ์ด KEY CARD OR KEY TAG อยู่ในกล่องการ์ด

4. เมื่อดึงการ์ดออกจากภายในกล่องการ์ด BOX HOLDER สำหรับการ์ดของลูกค้า แล้วประมาณ 15-20 วินาที ระบบไฟฟ้าในห้องที่ต่อออกจากกล่องควบคุมจะทำการตัดไฟฟ้าในห้องทันที และแสงสว่างจากกล่อง ภายในกล่องการ์ด  HOLDER จะมีหลอด LED ภายในกล่องจะสว่างทันที

5. เมื่อดึงการ์ดออกจากภายในกล่องการ์ด BOX HOLDER สำหรับการ์ดของแม่บ้าน แล้วประมาณ 5 วินาที ระบบไฟฟ้าในห้องที่ต่อออกจากกล่องควบคุมจะทำการตัดไฟฟ้าในห้องทันที และแสงสว่างจากกล่อง ภายในกล่องการ์ด BOX HOLDER จะมีหลอด LED ภายในกล่องจะสว่างทันที

6. แยกกการทำงานอย่างอิสระระหว่าง Key card ของลูกค้ากับพนักงานทำความสะอาด

ซึ่งการแยกการ์ดข้อมูลของลูกค้ากับพนักงาน สามารถทำให้ผู้ที่คอยควบคุมสามารถตรวจสอบได้ว่าในเวลาใดใครเป็นผู้ใช้การ์ดสำหรับเข้าไปในห้องพัก ในกรณีที่มีการโจรกรรม หรือทรัพย์สินสูญหาย

ทั้งนี้ข้อดีของอุปกรณ์นี้ คือช่วยให้เจ้าของกิจการ สถานที่สามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าไฟฟ้าให้ลดลงมาได้อย่างมากในกรณีที่ลูกค้าลืมปิดไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้องพัก

ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เครื่องสแกนใบหน้ากับระบบบันทึกเวลา

เมื่อหลายสิบปีก่อน คงปฏิเสธกันไม่ได้ว่า “เครื่องรูดบัตร” คืออุปกรณ์ลงเวลาที่ดีที่สุด เหตุผลก็เพราะมันคือการเปลี่ยนรูปแบบการบันทึกเวลาจากระบบ Manual (เครื่องตอกบัตร) สู่ระบบ Digital อย่างแท้จริง โดยเหล่าเครื่องรูดบัตรลงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น บาร์โค้ด หรือ บัตรแถบแม่เหล็ก ก็มีออกมาจำหน่ายมากมายหลายรุ่น




ในช่วงเวลานั้น ข้อดีหลักๆ ของการเปลี่ยนจากระบบการตอกบัตรมาเป็นระบบบัตรรูดบันทึกเวลาทำงาน ก็คือ การที่ผู้ใช้งานสามารถนำเอาเวลาเข้าออกจากตัวเครื่องมาใช้งานได้ทันที โดยสามารถส่งเวลาเข้าออกงาน ที่อยู่ในรูปแบบ Text ออกมาใช้งานร่วมกับโปรแกรมคิดเงินเดือน โปรแกรมคำนวนเวลาได้ นับเป็นการพลิกโฉมรูปแบบการคำนวนเวลาทำงาน จากที่เคยใช้คนนับ สู่การใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลแทน เรียกได้ว่า ในบางบริษัท หรือบางหน่วยงานฝ่ายบริหารบุคคลต้องเรียนรูปและปรับตัวกัน เพื่อให้สามารถเรียนรู้และใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้

แม้ว่าเครื่องรูดบัตรจะเป็นการปฏิวัติรูปแบบการบันทึกเวลาในเรื่องการนำข้อมูลมาใช้งาน แต่สิ่งหนึ่งที่เครื่องรูดบัตรยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้นั้นก็คือ “การรูดบัตรแทนกัน” ซึ่งมันก็เป็นปัญหากวนใจฝ่าย HR และกลุ่มผู้บริหาร เจ้าของโรงงาน ที่ต้องการรักษาผลประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้จากการทำงานของพนักงาน



ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการพัฒนาเกียวกับระบบบันทึกเวลาทำงานออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องทาบบัตรบันทึกเวลา เครื่องสแกนลายนิ้วมือบันทึกเวลา เครื่องสแกนใบหน้า  ซึ่ง อุปกรณ์ทุกชิ้นที่กล่าวมา มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ส่วนปัญหาของเครื่องสแกนใบหน้าก็มีปัญหาอยู่เช่นกันคือเรื่องของความสูงของบุคคล



มนุษย์เกิดมามีความสูงไม่เท่ากัน บางคนสูงบางคนเตี้ย ทำให้การใช้งานเกี่ยวกับระบบสแกนต่างๆ อาจจะเกิดปัญหาได้ แต่โชคดีที่ เครื่องสแกนใบหน้ารุ่น ใหม่ๆ นั้นได้ออกแบบระบบลงทะเบียนใบหน้าที่ให้ผู้ใช้งานต้องขยับเข้าออก เพื่อให้ตัวเครื่องสแกนสามารถสแกนใบหน้าจากมุมที่แตกต่างกัน โดยผู้ที่สูงอาจจะต้องอยู่ห่างเครื่อง ส่วนคนที่เตี้ยก็ขยับเข้าใกล้ตัวเครื่อง เพื่อให้ใบหน้าแสดงที่จอ และในการติดตั้งใช้งานเครื่อ scan ใบหน้านั้นโดยส่วนใหญ่ ตำแหน่งหรือจุดตั้งจะอยู่ระหว่าง 110 – 120 ซม. โดยในเอกสารการติดตั้งที่มากับตัวเครื่องระบบแนะนำให้ติดตั้งที่ความสูงจากพื้นที่ผู้ยืนยืนอยู่ อยู่ที่ 120 ซม. แต่สเปคดังกล่าวอาจจะไม่ใช้สูตรตายตัวในการติดตั้ง เพราะหากพื้นที่หรือหน่วยงานมีจำนวนความสูงของพนักงานโดยเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์เตี้ยก็เลือกติดให้ต่ำลงเล็กน้อยได้

ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประโยชน์ของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ กับการทำงาน

ประโยชน์ของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ

ในปัจจุบันนี้การดำเนินธุรกิจมีการแข่งขันที่สูงขึ้น การนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการดำเนินงาน ก็จะช่วยเพิ่มข้อได้เปรียบและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น





ระบบบันทึกเวลาพนักงานด้วยเครื่องสแกนลายนิ้วมือ จะช่วยในการจัดเก็บและตรวจสอบเวลาของพนักงาน พร้อมระบบลงเวลา คำนวณเวลาและระบบรายงาน ซึ่งสามารถส่งรายงานระบบนี้ไปยังระบบอื่นได้ เช่น ระบบคิดเงินเดือน เป็นต้น ช่วยลดภาระฝ่ายบุคคล ซึ่งการคำนวณผลนั้นมีความถูกต้อง แม่นยำ

ประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีเครื่องสแกนลายนิ้วมือ มาประยุกต์ใช้ร่วมกับระบบบันทึกเวลาของพนักงาน มีประโยชน์ดังนี้



1. ป้องกันการลงเวลาแทนกันของพนักงาน
การลงเวลาแทนกันของพนักงานนั้นจะทำให้องค์การเสียผลประโยชน์ และประเมิณผลการทำงานของพนักงานผิดพลาด 

2. สามารถอ่านลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็ว
เครื่องสแกนลายนิ้วมือ สามารถอ่านลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็วในหน่วยเวลาเป็นวินาที

3. รายงานสรุปและสถิติ
ระบบจะทำการเก็บข้อมูล คำนวณสถิติ และจัดทำเป็นรายงานสรุปเวลาทำงาน ขาด ลา มาสาย OT ได้ด้วย

4. ลดภาระฝ่ายบุคคล
ฝ่ายบุคคลไม่ต้องเสียเวลารวบรวมข้อมูลของพนักงานแต่ละคนด้วยตัวเอง สามารถคำนวณและสรุปรายงานข้อมูลการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ

นอกจากเครื่องสแกนลายนิ้ว จะสามารถนำมาใช้งานในเรื่องของการลงเวลาทำงาน (Time Attendance) ด้วยลายนิ้วมือและบัตรแล้ว ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับระบบควบคุมประตู (Access Contnrol) ได้อีกด้วย นวัตกรรมใหม่ที่รวมเอา 2 ระบบการใช้งานเข้าไว้ในหนึ่งเดียวนี้ถูกผสานกันอย่างลงตัว คุ้มค่าบนความปลอดภัย เพราะสามารถจำกัดการเข้าออกของผู้ใช้งานได้

เครื่องสแกนลายนิ้วมือ ได้ถูกพัฒนาขึ้นอีกขั้นด้วยหน้าจอสี ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น นอกจากเครื่องสแกนลายนิ้วมือแล้วก็ยังมีการรวมฟังก์ชั่นอื่นๆ เข้าไปอีกเช่น ใช้บัตร ใช้การสแกนใบหน้า ในเครื่องเดียวกันได้


CR. บทความ รูปภาพจากอินเตอร์เนต

ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

การบำรุงรักษา กล้องวงจรปิดเบื้องต้น

การตรวจสอบบำรุงรักษา กล้องวงจร ปิดเบื้องต้น

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับ กล้องวงจรปิด

    ปัญหาที่ถือว่าเป็นปัญหาหลักสำหรับระบบกล้องวงจรปิดที่ร้ายแรงพอสมควรนั่นก็คือ เมื่อมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นแล้วลูกค้าต้องการที่จะย้อนดูภาพที่บันทึกไว้ แต่เครื่องบันทึกนั้นเกิดไม่บันทึกภาพบ้าง หรือวันที่ที่บันทึกไม่ตรงบ้าง กล้องเสียบ้าง ภาพไม่ชัดบ้าง ทั้งนี้เนื่องมาจากปัญหาที่เกิดจากขาดการเอาใจใส่และไม่มีความรู้เท่าที่ควรในการใช้งาน ปัญหาที่มักพบมีดังนี้ เช่น






    1. ผู้ใช้ไม่ได้เปิดจอไว้เพื่อดูตลอดเวลาคือใช้ทีวีอันเดียวกับที่ใช้ดูทีวีภายในบ้านทำให้ไม่เห็นการบันทึกของภาพตลอดเวลา จึงไม่สามารถทราบได้เลยว่าขณะนี้กล้องยังใช้งานได้หรือไม่

    2. ปัญหาจากการที่ไฟดับเป็นระยะเวลานานๆ จนทำให้ไฟสำรองในเครื่องสำรองไฟ (UPS) หมด และเมื่อไฟมาอีกครั้ง UPS นั้นจะไม่สามารถเปิดเองได้อัตโนมัติ ทำให้ระบบไม่ทำงาน เครื่องบันทึกจึงไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติด้วย

    3. สำหรับระบบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งมาเป็นระยะเวลานาน แบตเตอรี่ที่มีในเครื่องบันทึกซึ่งเป็นไฟเลี้ยงที่ใช้สำหรับเก็บความจำวันที่ในเครื่องหากแบตเตอรี่หมดแล้วเครื่องบันทึกจึงไม่สามารถบันทึกตามเวลาจริงได้

    4. ระบบในเครื่องบันทึก Error โอกาสที่จะเกิดมีแต่น้อย มักจะทำให้เครื่องบันทึก ไม่สามารถบันทึกได้ ( ให้รีบแจ้งช่างมาแก้ไข )



วิธีการตรวจสอบ กล้องวงจรปิด เองเบื้องต้น

1. ควรตรวจสอบว่ากล้องที่ติดตั้งทุกตัวยังมีภาพหรือไม่ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
2. สถานะ Record ของ Harddisk ยังทำงานหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของระบบ
3. ทดสอบการดึงข้อมูลเพื่อให้เป็นที่แน่ใจว่าระบบทำงานได้เป็นปกติ
4. ทดสอบการทำงานของเครื่องสำรองไฟโดยการดึงปลั๊กไฟเข้าออกหากมีเสียงแจ้งเตือนและยังสำรองไฟได้แสดงว่าเครื่องทำงานปกติ





เช่นนี้แล้ว การตรวจสอบระบบของกล้องวงจรปิดจึงมีความสำคัญมากในระบบรักษาความปลอดภัย เราจึงควรที่จะคอยดูแลบำรุงรักษาให้สามารถใช้งานได้อยู่ตลอดเวลาเพราะกล้องวงจรปิดก็เปรียบเสมือนหู ตา ของเราในเวลาที่มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น

CR. ภาพและข้อความจากอินเตอร์เนต
    
ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประโยชน์ของกล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิด มีดีอย่างไร

ประโยชน์จากการติดตั้งกล้องวงจรปิด




บ้านหลังไหนที่ติดกล้องวงจรปิด CCTV นั้นก็เปรียบเสมือนกับมีตาที่คอยจับจ้องมองผู้กระทำความผิดอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากผู้กระทำการผิดเมื่อมองเห็นกล้องแล้วก็มักจะเปลี่ยนแผนหรือเปลี่ยนสถานที่ไปที่อื่นแทน  ซึ่งนอกจากจะสามารถจับภาพและบันทึกวีดีโอที่เป็นประโยชน์ในการชี้ตัวคนร้ายได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย เช่น

กรณีที่เจ้าของบ้านมีเด็กเล็กในบ้าน การติดกล้องวงจรปิดในห้องของลูกน้อยทำให้เห็นพฤติกรรมต่างๆของลูกได้อย่างชัดเจน อีกทั้งสามารถตรวจสอบพฤติกรรมของพี่เลี้ยง(ในกรณีที่จ้างพี่เลี้ยงเด็ก) ว่าปฏิบัติเลี้ยงดูลูกของเราอย่างไร

กรณีร้านค้าติดกล้องวงจรปิด สามารถช่วยลดอัตราการขโมยลงได้มากขึ้น ซึ่งมีผลพลอยได้อื่นๆ ตามมาด้วย คือ กล้องจะสามารถช่วยให้เจ้าของกิจการได้สังเกตพฤติกรรมของพนักงานของตนเองด้วยว่าทำงานมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรในองค์กรอีกด้วย

กรณีการโดนทำลายทรัพย์สิน กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายนอกตัวอาคารจะเป็นตัวช่วยสอดส่องดูแลให้เรา และถ้าเราดูกล้องอยู่ยังสามารถยับยั้งเหตุการณ์กรณีทำลายทรัพย์สินหรือในกรณีพวกมือบอนที่ชอบมาฉีดพ่นสเปรย์ตามหน้าร้านหรือกำแพงได้ทันท่วงที

ปัจจุบันมีการเชื่อมโยงกล้องวงจรปิดกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งทำให้เจ้าของบ้านสามารถดูแลบ้านของตนเองผ่านโทรศัพท์มือถือหรือผ่านคอมพิวเตอร์ได้ถึงแม้จะอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็ตาม





กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากในเรื่องความปลอดภัยในปัจจุบันนี้ ล้วนเป็นเครื่องมือป้องกันการโจรกรรม การย่องเบา การทำลายทรัพย์สินและเหตุร้ายอื่นๆ การที่สามารถเห็นภาพผ่านกล้องวงจรปิดช่วยในการจับภาพผู้ก่อเหตุร้ายและลดโอกาสในการก่อเหตุใดๆ นอกเหนือจากนี้กล้องวงจรปิดยังจับภาพและบันทึกวิดีโอที่อาจจะเป็นประโยชน์ในการชี้ตัวผู้บุกรุกในการไต่สวน ข้อดีมากมายคือดังนี้

ป้องกันการขโมยสินค้า : กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในร้านค้าหรือห้างช่วยลดจำนวนขโมย การติดตั้งกล้องวงจรปิดมากขึ้นช่วยให้พนักงานรักษาความปลอดภัยสามารถตรวจดูลูกค้าและพนักงานเองในการลดจำนวนขโมย

ลดการทำลายทรัพย์สิน : กล้องวงจรปิดภายนอกที่ใช้ในการตรวจเหตุภายนอกของร้านคาช่วยในการลดการทำลายทรัพย์สินที่เกิดขึ้นกับห้างร้านได้เหมาะสม ช่วยป้องกันการขโมยสินค้าในร้านค้าและช่วยป้องกันการเขียนกราฟฟิติและการติดโพสเตอร์

เช็คภาพที่บันทึก : การใช้เครือข่ายกล้องวงจรปิด ผู้ใช้จะสามารถตรวจภาพได้อย่างง่ายดายของบริเวณที่ใช้งานได้จากที่ใดก็ตามภายในโลกด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 

สำหรับเจ้าของบ้าน : กล้องวงจรปิดช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถตรวจสอบสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในบ้านได้ กล้อง “พี่เลี้ยง” ได้รับความนิยมมากในการตรวจสอบพฤติกรรมของพี่เลี้ยงที่กระทำต่อเด็กๆ ได้ กล้องแบบบุลเลตและกล้องซ่อนจึงเหมาะกับวัตถุประสงค์เช่นนี้มาก

เมื่อเห็นข้อดีของกล้องวงจรปิดแล้วก็ควรหันมาสนใจที่จะลองมองหาและนำมาติดตั้งไว้ใช้กันนะครับเพราะสมัยนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ และยิ่งถ้าเรามีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดด้วยแล้วจะยิ่งใช้เป็นข้อมูลในการหาตัวผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นอุปกรณ์ที่ราคาไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับการป้องกันขั้นพื้นฐานให้กับครอบครัวและทรัพย์สินของเรา

มีปัญหาในการเลือกซื้อหรือติดตั้ง สอบถามเราได้ครับ

ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วิธีเลือกซื้อกล้องวงจรปิด

ซื้อ กล้องวงจรปิด ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

การเลือกชนิดของ กล้องวงจรปิด (CCTV)

ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ด้วยเช่น


ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV)

ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่ใช้ทั่วไปแบ่งได้เป็น 2 ระบบ คือ CCIR ( PAL:ใช้ในประเทศไทย ) และ EIA (NTSC) กล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบ CCIR เป็นระบบมาตรฐานของยุโรป 625 เส้น 220 โวลต์ 50 เฮิรตช์ ส่วน EIA เป็นระบบมาตรฐานอเมริกัน 525 เส้น 110 โวลต์ 60 เฮิรตช์ กล้องวงจรปิด (CCTV) ที่เหมาะที่จะนำมาใช้ในประเทศไทยจะต้องเป็นระบบ CCIR เพราะจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในโซนประเทศของเรา






ขนาดของแผ่นรับภาพของ CCD Sensor format

ขนาดของแผ่นรับภาพของ CCD Sensor format หรือ (ที่เรียกกันว่า ขนาดเซ็นเซอร์ ) ถ้ายิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งดี เพราะจะสามารถให้มุมมองของภาพได้มุมที่กว้าง เช่น ขนาด 2/3″, 1/2″, 1/3″, และ 1/4″  เป็นต้น ขนาดของแผ่นรับภาพแต่ละรุ่นนั้นจะมีผลต่อความละเอียดของภาพ ( Numbers of Pixels ) และการเลือกใช้ เลนส์ ก็มีส่วนในการได้รับมุมของภาพที่แตกต่างกันไป







ความสว่าง ( Illumination )

คุณสมบัติของอุปกรณ์รับภาพของ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) นั้น ไม่ได้มีผลเฉพาะต่อความไวที่มีต่อแสงสว่างเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อสีของวัตถุอีกด้วย คุณภาพของภาพที่ดีจะขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงที่ฉากรับภาพ ในกรณีของ กล้องวงจรปิด (CCTV) ที่เป็น กล้องสี ให้คำนึงถึงอุณหภูมิสี ( Color Temperature) ที่ได้จากแสงสว่างร่วมกับแหล่งกำเนิดแสงทั่ว ๆ ไป เพราะประกอบด้วยแสงสีชนิดต่าง ๆ รวมกัน และแสงบริเวณรอบ ๆ กล้องที่จับภาพจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้แสงไม่คงที่ตลอดเวลา

โดยทั่วไป กล้องวงจรปิด (CCTV) แบบ CCD สามารถแบ่งตามคุณสมบัติของความสว่างได้ 3 ระดับ คือ
1. กล้องที่ใช้งานทั่วไป ต้องการความสว่างตั้งแต่ 5-2,000 Lux
2. กล้องที่ใช้ในสถานที่ ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ต้องการความสว่างตั้งแต่ 0.1-5 Lux
3. กล้องที่ใช้ในงานพิเศษที่ต้องการภาพที่คมชัดโดยเฉพาะ ต้องการความสว่างตั้งแต่ 0.0001-0.1 Lux

เพียงแค่ไม่กี่นาทีถ้าคุณได้อ่านบทความนี้ก็สามารถนำข้อมูลไปตัดสินใจเพื่อหาซื้อกล้องวงจรปิดที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ หรือถ้ายังไม่แน่ใจลองปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจซื้อเพราะจะได้สินค้าที่ดีมีคุณภาพกับที่คุณต้องการด้วย

ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

Cr. ภาพและข้อความบางส่วนจากอินเตอร์เนต


วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การเลือกซื้อเครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด

ก่อนเลือกซื้อ เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด

เครื่องบันทึกภาพ กับกล้องวงจรปิด

ระบบกล้องวงจรปิดในปัจจุบัน ถือว่าเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมาก ทั้งในระบบงานราชการ งานเอกชน รัฐวิสาหกิจ หรือแม้แต่บ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม สนามกีฬา ห้างสรรพสินค้า ก็ยังเลือกใช้ระบบกล้องวงจรปิดเพิ่มเข้ามาในระบบรักษาความปลอดภัยด้วย เนื่องจากเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยสูง สามารถสอดส่องตรวจตราได้พื้นที่มากและเป็นแบเรียลไทม์ 




กล้องวงจรปิดที่มีขายในประเทศไทย มีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งคุณภาพและราคาก็แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าต้องการใช้งานระบบกล้องวงจรปิดแบบใด คุณภาพและราคาก็มีส่วนในการตัดสินใจเลือกซื้อด้วย ถ้าต้องการกล้องวงจรปิดคุณภาพสูง ราคาก็อาจจะสูงตาม แต่ถ้าต้องการราคาถูก คุณภาพของระบบกล้องวงจรปิดก็อาจจะลดหลั่นลงมาตามราคาด้วยเหมือนกัน





ทีนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของ "ขนาดและคุณภาพของภาพที่บันทึกลงใน เครื่องบันทึกภาพ " หรือที่เรียกกันว่า DVR ว่ามีผลอย่างไรบ้างกับภาพที่ได้และนำไปใช้งานอื่นๆ จะได้เป็นทางเลือกของลูกค้าหรือผู้ที่ต้องการซื้อจะได้ไม่ต้องซื้อของมาเกินราคากว่าที่จำเป็นต้องใช้งานเพราะคนขายยังไงก็อยากขายของแพงให้ก่อนอยู่แล้วครับ 




การเลือกซื้อตัวกล้องวงจรปิด นอกจากจะต้องเลือกที่มีคุณภาพ และยี่ห้อสินค้าแล้ว เครื่องบันทึกภาพก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์อีกอย่างหนึ่งสำคัญที่จะช่วยให้ระบบกล้องวงจรปิดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราใช้กล้องวงจรปิดอย่างดี สามารถจับภาพได้อย่างคมชัด แต่เครื่องบันทึกภาพที่ใช้ กลับเป็นเครื่องบันทึกภาพที่บันทึกภาพแบบ 'CIF' ทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพที่ได้รับจากกล้องนั้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ CIF 

คืออะไร CIF คือ ชื่อเรียกของขนาดของภาพที่บันทึกลงในเครื่องบันทึกภาพ  
ซึ่งก็คือ ขนาดของภาพที่บันทึกลงในเครื่องบันทึกภาพ ซึ่งมีดังนี้

- D1         ขนาดภาพเท่ากับ  720 x 576   อัตราส่วน 1.25 : 1   ความละเอียด 414,720 Pixels

- 4CIF      ขนาดภาพเท่ากับ  704 x 576   อัตราส่วน 1.22 : 1   ความละเอียด 405,504 Pixels

- DCIF      ขนาดภาพเท่ากับ  528 x 284   อัตราส่วน 1.86 : 1   ความละเอียด 149,952 Pixels

- 2CIF      ขนาดภาพเท่ากับ  704 x 288   อัตราส่วน 2.44 : 1   ความละเอียด 202,752 Pixels

- CIF        ขนาดภาพเท่ากับ  352 x 288   อัตราส่วน 1.22 : 1   ความละเอียด 101,376 Pixels

- QCIF     ขนาดภาพเท่ากับ  176 x 144   อัตราส่วน 1.22 : 1   ความละเอียด 25,344 Pixels


ความละเอียด และ ความคมชัดของภาพที่ถูกบันทึกในเครื่องบันทึกภาพ 
D1 สูงสุด  QCIF ต่ำสุด ตามลำดับ ซึ่งไม่ใช่ว่าการบันทึกภาพแบบ QCIF ไม่ดีนะครับทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการใช้งาน กล่าวคือ ถ้าเป็นงานที่ต้องการกกล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพดีเยี่ยม เห็นภาพคมชัด สามารถดูย้อนหลังได้โดยคุณภาพของภาพเทียบเท่ากับ DVD ขนาดของภาพที่บันทึกลงในเครื่องบันทึกภาพแบบ D1 คือคำตอบที่เราต้องเลือกใช้แต่สิ่งที่ต้องแลกก็ คือ พื้นที่การบันทึกใน Hard Disk นั้นเอง เพราะยิ่งภาพที่บันทึกละเอียดมากก็ยิ่งใช้พื้นที่ในการบันทึกมากตาม ถ้าต้องการเก็บข้อมูลได้นานขึ้น อาจจะต้องเพิ่ม Hard Disk ที่ใส่ในเครื่องบันทึกภาพครับ
ในทางกลับกันถ้าเป็นงานที่ไม่ได้ต้องการความละเอียดมาก และ มีงบที่จำกัด อาจจะเลือกเครื่องบันทึกภาพที่บันทึกขนาดของภาพแบบ CIF แทนแต่การดูภาพย้อนหลังอาจจะไม่ชัดเจนเท่ากับแบบ D1 

แต่ในปัจจุบันราคาของ Hard Disk มีราคาถูกลงและขนาดความจุก็เพิ่มขึ้นมาก ขนาด 1TB (1000 GB) ราคาก็ไม่สูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับสมัยก่อนและการเก็บข้อมูลก็ยังดีกว่าด้วยอยู่ได้เป็นปีๆ ถ้าเราไม่ลบทิ้งไป 


ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Turnstile คืออะไร?


Turnstile หรือ ระบบที่กั้นทางเข้า-ออก


Turnstile หรือ ประตูกั้นทางเข้า-ออก เป็นเหมือนประตูชนิดหนึ่งมีกลไกโดยการหมุนช่วยควบคุมการเข้าและออก โดยมีระบบหมุนซะส่วนใหญ่ ประกอบด้วยแขน แนวนอนที่ ยื่นออกมาจากตัวเครื่องซึ่งจะช่วยให้บุคคลที่จะผ่านต้องเดินเรียงทีละคนเพื่อความเป็นระเบียบ ประตูกั้น Turnstile จะมีประโยชน์ในการใช้เพื่อควบคุมคนที่จะเข้า หรือ ออก ให้เป็นไปย่างมีระบบ และในตัว Turnstile มีระบบอื่นๆ อีกอาทิตัวนับจำนวนคนผ่าน ระบบผ่านด้วยบัตร (คีย์การ์ด) หรือเฉพาะผู้ที่ได้รับอณุญาตให้เข้าด้วยบัตรหรือระบบอื่นๆ

Turnstile จะใช้ได้ที่ไหนบ้าง

สถานที่ ที่มักใช้ Turnstile ได้แก่ สวนสนุก, การขนส่งสาธารณะ , สนามบิน และ สนามกีฬา การออกแบบประตูหมุนช่วยให้บุคคที่ต้องการเข้าหรือออกจะต้องผ่านไปทีละคนและไปในทิศทางเดียวกันเพื่อความเป็นระเบียบ แขนหมุนของประตูมีขนาดต่างๆ กันไป เริ่มจากความสูงเท่าเอว กับรุ่น ความสูงแบบเต็มบานประตู แบบเต็มบานประตูจะใช้สำหรับ สถานการณ์ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด 

Turnstile สามารถแบ่งได้ 3 ชนิดคือ
- Bridge type tripod 
- Vertical tripod turnstile 
- Flap Gate 


Bridge type tripod มีระบบเพิ่มเติมได้ดังนี้
- ต่อกับเครื่องหยอดเหรียญ หรือระบบนับจำนวนคนได้
- ระบบควบคุมประตูและเครื่องอ่านบัตร
- ระบบทาบบัตรและเดินผ่าน




Vertical tripod turnstile สามารถ
- ต่อกับเครื่องหยอดเหรียญ หรือระบบนับจำนวนคนได้
- ระบบควบคุมประตูและเครื่องอ่านบัตร
- ระบบทาบบัตรและเดินผ่าน





Flap Gate ระบบควบคุมการเข้าออกอัตโนมัติ ชนิดใช้บัตร สแกนนิ้ว บาร์โค้ด และสมาร์ทการ์ด มีระบบป้องกันการหนีบผู้ใช้งานโดย Sensor เมื่อเครื่องตรวจจับว่ามีคนอยู่ตรงกลาง แท่นก็จะไม่ปิด หรือว่าเวลาบานประตูปิดถ้ามีคนอยู่ เครื่องจะหยุดทันที มีเสียงพูดเตือนชัดเจน หรือสามารถตั้งเป็นเสียง Buzz ได้




สนใจสอบถามข้อมูลของ Turnstile เพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่

ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เครื่องทาบบัตร คืออะไร

คุณรู้จัก เครื่องทาบบัตรหรือไม่



การใช้งาน เครื่องทาบบัตร

หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยการใช้บัตร คีย์การ์ด ในการเข้า-ออก ตามสถานที่ต่างๆ มาบ้างแล้ว อาทิเช่น สำนักงาน หอพัก หรือคอนโดมิเนียม แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้าเครื่องที่ติดตรงประตูที่ท่านเอาบัตรคีย์การ์ดไปทาบนั่นคือเครื่องอะไร และไว้ใช้ทำอะไร เครื่องที่ว่านั้นก็คือ “เครื่องทาบบัตร” วันนี้จะแนะนำข้อมูลของเครื่องทาบบัตรว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง




ระบบการทำงานที่ใช้คู่กับ คียการ์ด เพื่อความปลอดภัย



ระบบการทำงานของ เครื่องทาบบัตร ถือเป็นเครื่องบันทึกเวลาประเภทหนึ่ง ที่มีความสามารถในการนำไปใช้ต่อพ่วงกับระบบควบคุมประตู Access Control เพื่อใช้ในการเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติ โดยจะตั้งข้อมูลให้อนุญาติเปิดได้เฉพาะผู้ที่มีบัตรคีย์การ์ดเท่านั้น ด้วยคุณสมบัตินี้เอง จึงมีคนนำมาใช้ในธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน โรงแรม อาคารสำนักงานต่างๆ เพราะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. เฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นบาท ดังนั้นการลงทุนติดตั้งเครื่องทาบบัตรแล้วใช้งานประตูคีย์การ์ดจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมากเพราะบัตรแต่ละแบบที่ผู้ถือก็สามารถกำหนดสิทธิ์การใช้งานได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น บัตรสำหรับผู้เข้าพักห้องพักรายวันจะถูกกำหนดวันที่เช็คอินและวันที่ออกในบัตร ซึ่งถ้าเกินกว่าที่กำหนดจะไม่สามารถเปิดประตูได้ หรือแม้กระทั่งแม่บ้านทำความสะอาดก็สามารถกำหนดว่าจะให้เข้าทำความสะอาดได้เวลาไหน วันไหนได้บ้าง







เครื่องทาบบัตรทำงานโดยมีบัตรคีย์การ์ดเป็นตัวส่งสัญญาณ RFID (Radio Frequency Identity) ไปที่เครื่องอ่านบัตร Reader เพื่อทำการอ่านค่าที่ได้ ถ้าข้อมูลถูกต้องคำสั่งในการเปิดประตูจะถูกส่งไปยังกล่องควบคุมที่ทำการต่อพ่วงกับกลอนประตูแม่เหล็กเพื่อทำการเปิดประตู ถึงจะมีขั้นตอนการทำงานที่หลายขั้นตอน แต่ระยะเวลาตั้งแต่เอาบัตรไปทาบที่ตัวอ่านถึงตอนที่ประตูเปิดเพียงไม่กี่วินาที นี่คือข้อดีของเทคโนโลยีนี้นั่นเอง เรียกได้ว่าพัฒนาขึ้นมาเพื่อความสะดวกสบาย และช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสถานที่ที่คุณห่วงใยและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ 


ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Hotel lock กับความปลอดภัยในโรงแรม

Hotel Door Lock System


โฮเทลล๊อค

คือ ระบบประตูล็อคห้องพักภายในโรงแรมซึ่งเป็นหนึ่งในระบบรักษาความปลอดภัยของทุกโรงแรมในสมัยนี้ก็ว่าได้ ถ้าโรงแรมใดใช้กุญแจที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่สามารถไว้วางใจได้ โรงแรมนั้นก็จะเป็นเสมือนสถานที่ ที่ไม่ปลอดภัยสำหรับชีวิตและทรัพยสินของแขกหรือลูกค้าที่เข้ามาพักอาศัย อันเป็นอีกหนี่งสาเหตุที่ทำให้เกิด การโจรกรรม การขโมยทรัพยสิน หรือแม้แต่เกิดอาชญากรรมได้ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับเจ้าของและผู้ประกอบกิจการโรงแรมโดยตรง หรืออาจจะถึงขั้นทำให้ชื่อเสียงของโรงแรมเสียหายได้ ทำให้ไม่มีผู้เข้าใช้บริการอีก ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้ก็คือการติดตั้งระบบควบคุมกุญแจที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับโรงแรมโดยเฉพาะ นั่นก็คือ ระบบ Hotel Lock System โดยสิ่งที่ได้จากระบบนี้ก็คือความปลอดภัยในการใช้งาน และความสะดวกในการจัดการระบบการเข้าออก Hotel Lock System สามารถจัดการได้โดยผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งให้การทำงานที่ถูกต้องและแม่นยำมาก โดยมีระบบสำรองเป็นระบบกุญแจที่ออกมาอยางพิเศษ ซึ่งระบบ Hotel Lock ปัจจุบันเป็นระบบที่ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะหากมองในความปลอดภัยที่ได้จากระบบล็อคประตูนี้แล้ว นับได้ว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากอีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโรงแรมต่อผู้ที่เขาใช้บริการ และยังสามารถยกระดับของโรงแรมในสายตาของนักท่องเที่ยวไปอีกทางหนึ่งด้วย



ข้อดีของการใช้งานระบบ Hotel Lock System คือ ระบบจัดการผู้ถือบัตรต่างๆ ที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ซึ่งภายในจะประกอบด้วยบัตรต่างๆ อยู่ประมาณ 7 ถึง 8 ชนิดตามแต่ที่จะกำหนดขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น บัตรเข้าห้องของแม่บ้านเพื่อทำความสะอาด ซึ่งบัตรนี้จะมอบให้พนักงานทำงานความสะอาดที่ดูแลชั้นที่กำหนดขึ้น โดยพนักงานทำความสะอาดจะสามารถเข้าไปทำความสะอาดได้เฉพาะชั้นที่มีหน้าที่รับผิดชอบเท่านั้น และจะเข้าไปทำความสะอาดได้ก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยข้อมูลในบัตรสามารถเปลี่ยนแปลแก้ไขโดยผ่านซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ และการใช้บัตรผ่านเข้าห้องสามารถทำให้เราเช็คได้ด้วยว่าบัตรนี้ผู้ใดเป็นคนถือ ทำให้ช่วยลดปัญหาทรัพยสินมีค่าของผู้เข้ามาใช้บริการหาย เนื่องจากพนักงานทำความสะอาดไม่สามารถที่จะนำเอาบัตรมาเปิดห้องลูกค้าได้เองและหมดปัญหาข้อโต้แย้งเมื่อทรัพย์สินของลูกค้าสูญหาย นอกจากนั้นภายในระบบยังประกอบไปด้วย บัตรผู้ดูแลตึก บัตรผู้ดูแลชั้น หรือบัตรพนักงานซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งบัตรแต่ละใบจะมีหน้าที่การทำงานที่ต่างกัน และมีเงื่อนไขในการผ่านเข้าประตูที่ต่างกัน



หากมองถึงความคุ้มค่าในการเปลี่ยนมาใช้ระบบ Hotel Lock System แล้ว นับได้ว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่ากับการลงทุนเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับผลดีที่ได้จากระบบการจัดการระบบความปลอดภัยของโรงแรมที่ดีขึ้น และระบบความปลอดภัยในการเข้าออกประตูของผู้เข้ามาใช้บริการ ความง่ายในการใช้งานอันส่งผลที่ดีต่อภาพลักษณ์ของและแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของลูกค้ารวมถึงทรัพย์สิน ตลอดระยะเวลาที่เข้าพักในโรงแรม และที่สำคญที่สุด ราคาของชุด Hotel Lock System ในปัจจุบันนี้ก็มีราคาไม่สูงมากเกินไปถ้าเทียบกับความปลอดภัยและความสะดวก


สนใจสอบถามราคาและการติดตั้ง ปรึกษาการใช้งานติดต่อ

ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อินเตอร์คอม (Video Door Phone) ทำงานอย่างไร

ระบบอินเตอร์คอม

ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อความสะดวกของผู้ใช้งาน เพราะสามารถใช้สื่อสารระหว่างกันได้โดยที่อยู่คนละสถานที่โดยที่ไม่ต้องเดินไปมาเพื่อพูดคุย ประหยัดเวลาและยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทรศัพท์ติดต่อถึงกันอีกด้วย เดิมทีอินเตอร์คอมมีเพียงแค่สัญญาณเสียงสำหรับไว้สนทนาทั้งสองฝ่าย


อินเตอร์คอมแบบ VDO Door Phone

ต่อมาได้ประยุคเป็นแบบเห็นภาพด้วย ซึ่งอินเตอร์คอมแบบเห็นภาพจะเรียกว่า (VDO Door Phone) มีทั้งแบบอินเตอร์คอมโดยการพูดสนทนาและแบบเหมือนโทรศัพท์คุยกับภายในได้ อินเตอร์คอมแบบเห็นภาพ (VDO Door Phone) ก็ยังช่วยเรื่องความปลอดภัยด้วยขึ้นอีกขั้น เนื่องจากเราสามารถเห็นคู่สนทนาว่าเป็นบุคคลที่รู้จักหรือไม่




อินเตอร์คอมย่อมาจาก

คำว่าอินเตอร์คอม  เป็นคำเรียกสั้นๆ ของ intercommunication หมายถึงระบบการสื่อสารระหว่างภายในอาคาร ที่พัก ที่ระยะทางไม่ห่างไกลกันมากนัก ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล หรือกลุ่มคณะที่อยู่ต่างสถานที่ สามารถสื่อสารระหว่างกันทั้งภายในอาคารและนอกอาคาร อินเตอร์คอมสามารถทำให้เราติดต่อพูดคุยในเรื่องต่างๆ ได้สะดวก รวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการขึ้นลงลิฟท์หรือบันได้ และไม่มีค่าใช้จ่ายในการโทรแต่ละครั้ง เสียงดังฟังชัด ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการใช้อินเตอร์คอมเพื่อติดต่อกัน




อินเตอร์คอมที่ได้พัฒนามาให้เป็นทั้งที่เปิดปิดประตู เป็นกริ่งเรียกจากภายนอกสู่ภายในเพื่อสนทนาและอินเตอร์คอมแบบเห็นภาพ (VDO Door Phone) ก็ยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่ภายในอาคาร เพื่อตรวจสอบเบื้องต้นได้ว่าผู้สนทนามีท่่าทางหรือพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจหรือไม่และยังใช้เปิดประตูจากภายในโดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินไปปลดล็อคประตู เพียงแค่กดสวิตช์จากตัวอินเตอร์คอมก็สามารถเปิดประตูให้ผู้ที่มาติดต่อเข้ามาได้




สถานที่ๆ มักจะใช้ระบบอินเตอร์คอมมากที่สุดได้แค่ หอพัก คอนโด โรงแรมห้าดาว บ้านพักอาศัยที่ต้องการความปลอดภัยสูง นอกจากระบบอินเตอร์คอมแล้วยังมีอุปกรณ์แบบอื่นซึ่งนำมาใช้ร่วมกันได้ อาทิเช่น กล้องวงจรปิด เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เพื่อความปลอดภัยอีกขึ้นสำหรับสถานที่ ที่มีความสำคัญๆ อีกด้วย


สนใจสอบถามราคาและการติดตั้ง ปรึกษาการใช้งานติดต่อ

ติดต่อฝ่ายขาย : คุณพิมพาภรณ์ / คุณณัฐวัฒน์ / คุณณัฐธรดล / คุณธัญพิชชา
บริษัท เดอะ เบสท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด 
Mobile. 09-5943-7052 / 09-5540-9880 / 09-5516-4039 / 08-5828-2991
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.fingerthai.com